ฮอนด้าจัดการกระตุ้นตลาดให้กับรุ่นใหญ่ของสายพันธุ์โอดิสซีส์กับการไมเนอร์เชนจ์ แต่ก็เป็นสเปกอเมริกัน เพราะฝั่งญี่ปุ่นโอดิสซีส์ไมเนอร์เชนจ์มาสักระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งเอ็มพีวีรุ่นนี้มีรูปแบบการทำตลาดเหมือกับแอคคอร์ด คือ แบ่งโซนในการทำตลาด โดยเวอร์ชันที่ขายในบ้านเราและตลาดโลกจะเป็นโฉมเดียวกับญี่ปุ่น

       สำหรับอเมริกาแห่งเดียวเท่านั้น โอดิสซีส์จะได้รับการพัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษ และแตกต่างออกไปเป็นคนละคัน เพื่อเอาใจความต้องการที่มากกว่าของลูกค้าที่นั่น
       
       โดยแนวคิดนี้เริ่มกันมาตั้งแต่รุ่นที่ 2 ซึ่งโอดิสซีส์ เวอร์ชันอเมริกันก็มีการส่งกลับมาขายในญี่ปุ่นเช่นกัน แต่เปลี่ยนมาใช้ชื่อลาเกรทในการทำตลาด ส่วนรุ่นปัจจุบันซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ 3 ของโอดิสซีส์ไม่มีการส่งกลับมาขาย แยกกันขายแบบไม่เกี่ยวข้องกันอีกเลย

       รุ่นไมเนอร์เชนจ์นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกที่ได้รับการปรับปรุงเพิ่มความสดใหม่แล้ว อีกสิ่งที่มาพร้อมกันคือ การปรับปรุงเครื่องยนต์ให้มีความทันสมัยและรองรับกับยุคที่เน้นความประหยัดน้ำมัน
       
       เพราะขุมพลัง i-VTEC วี6 SOHC 3,500 ซีซีมาพร้อมกับระบบ Variable Cylinder Managemen หรือ VCM ที่ไฮเทคขึ้นและเป็นแบบเดียวกับที่ใช้ในแอคคอร์ดใหม่ โดยจะตัดการจ่ายน้ำมันของจำนวนสูบจากเดิม 6 สูบให้เหลือ 3 สูบ หรือ 2 สูบก็ได้เมื่อใช้ความเร็วคงที่หรือเมื่อลดความเร็วเพื่อความประหยัดน้ำมัน ส่งกำลังขับเคลื่อนอยู่ที่ 241 แรงม้า ที่ 5,700 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 33.4 กก.-ม. ที่ 4,900 รอบต่อนาที

       สำหรับรุ่นธรรมดาที่ไม่มีระบบ VCM ก็มีขาย แต่มีกำลังสูงสุดขยับขึ้นมาเป็น 244 แรงม้า ที่ 5,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 33.1 กก.-ม. ที่ 4,900 รอบต่อนาที ส่วนการทำตลาดจะมีขึ้นเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น และจะเริ่มขายปลายปีนี้